วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดอาเพศ

ในแต่ละวัน ท้องฟ้าอาจมีเมฆบ้าง ฝนตกบ้าง สว่างบ้าง มืดบ้าง ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ



พระจันทร์และดวงดาวในวันฟ้าโปร่งนั้นดูน่าชวนมอง เพลิดเพลิน แต่ถ้าวันใดพระจันทร์ขึ้นเต็มดวง คนโบราณว่าไว้ว่า ห้ามใช้นิ้วชี้พระจัทร์นั้นเด็ดขาด เพราะจะมีอาเพศเกิดขึ้นกับชีวิต แต่ถ้าเผลอไปชี้เข้าคนโบราณก็ให้แก้เคล็ดด้วยการนำเอาดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมาเสีย

ห้ามออกจากบ้านตอนเที่ยงตรง

เวลาเที่ยงตรงเป็นเวลาที่โบราณคือว่าไม่ดีเอาเสียเลยไม่ว่าเป็นการกระทำเรื่องใดก็ตาม



แม้แต่เรื่องการเดินทางออกจากบ้าน ท่านห้ามออกในเวลาเที่ยงตรง ให้รอจนเวลาเลยไปนิดหน่อยเสียก่อน ไม่ใช่นาฬิกาบอกเวลา 12.00 น. ก็เดินออกทันที คนโบราณเชื่อว่าจะทำให้การเดินทางนั้นติดขัด อาจเกิดอุบัติเหตุ ทำการติดต่ออะไรก็ไม่สำเร็จ

หากมองอีกแง่หนึ่ง เวลาเที่ยงตรงเป็นเวลาที่พระอาทิตยอยู่ตรงกลางศีรษะพอดี อากาศร้อนจัด ท่านให้เลื่อนเวลาเป็นก่อนหรือหลัง จึงเตือนไว้เพื่อความสะดวกเสียมากกว่า

กลางคืนได้ยินเสียงร้องเรียก ห้ามขานรับ



ในสมัยโบราณนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้สะดวกเหมือนในปัจจุบัน ค่ำลงต่างคนก็ดับตะเกียงเข้านอนกันเงียบ คนแก่คนเฒ่าจึงสอนไว้ว่า หากดับตะเกียงปิดบ้านแล้วมีเสียงคนมาร้องเรียก ให้เงียบเสีย เพราะนั่นเป็นเสียงของวิญญาณที่อาจมาหลอกมาหลอน บางคนก็ว่า หากมีเสียงเรียกแล้วขานรับ จะทำให้ดวงวิญญาณนั้นเข้าร่างได้

แต่ถ้าหากมองในลึกลงไปอีก อาจเป็นการป้องกันขโมยมาเข้าบ้านในยามวิกาลก็เป็นไปได้ เพราะขโมยอาจมาหลายรูปแบบ

จึงสามารถยึดถือได้ในแง่ที่ว่าอาจมีคนคิดร้าย คงไม่ใช่เรื่องของวิญญาณ แต่ก็ยังทำให้รู้สึกกลัว ๆ กล้า ๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าได้ยินเสียงร้องเรียกในยามวิกาลแบบนี้

พี่น้องปลูกบ้านติดกัน ต้องเรียงตามอาวุโส

ครอบครับในสมัยโบราณ หรือแม้กระทั่งปัจจุบันที่มีพื้นที่มาก ๆ ก็มักให้พี่น้องปลุกบ้านอยู่ใกล้กัน เพราะหากมีเรื่องเดือดร้อนใจ



ก็สามารถรับรู้และช่วยเหลือกันได้ คนโบราณก็ตั้งกฎเกณฑ์ไว้ว่า การปลุกบ้านหรือซื้อบ้านอยุ่ติดกันหลาย ๆ หลังให้พี่น้องครอบครับเดียวกันท่านให้อยุ่เรียงตามลำดับอาวุโส เช่น 3 หนังติดกัน ก็ให้พ่อแม่อยู่หลังที่ 1 หลังที่ 2 ให้พี่อยู่ และหลังสุดท้ายเป็นของน้อง หากมีการสลับลำดับคนโบราณเชื่อว่า จะทำให้ทำมาค้าไม่ขึ้น มีเงินมีทองก็ทำให้มีเหตุเป็นไปทุกที

แม้ว่า่จะเป็นเพียงความเชื่อมาช้านาน แต่ก็ยังเห็นปฏิบัติกันอยู่มาจนถึงทุกวันนี้


แก้เคล็ดเมื่อตุ๊กแกเกาะ

ตามที่เคยได้ยินมานักต่อนักว่า หากคนใดถูกตุกแกกระโดดหรือตกลงมาเกาะเมื่อใดมักจะแกะไม่ออก เพราะตีนตุกแกเหนียวมาก สามารถดิดยิ่งกว่ากาวเสียอีก

จะทำอย่างไรให้หลุดออกได้ คนโบราณพูดต่อ ๆ กันมาว่าให้ผู้ที่ถูกตุ๊กแกเกาะรีบกินน้ำ 3 โอ่ง กินข้าว 3 จาน กินอุจจาระ 3 กอง ตุ๊กแกก็จะหลุดไปได้



ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องหลอกเด็กเสียมากกว่า แต่ก็เป็นคำบอกต่อ ๆกันมาแบบนั้น อาจเป็นเพราะต้องการให้เด็ก ๆอยู่ห่างจากตุ๊กแกเสียให้ไกล ๆ ไม่ให้ไปเล่นใกล้ก็เป็นไปได้ และเมื่อถูกเกาะแล้วท่านว่าควรไปรดน้ำมนต์แก้เคล็ดสัก 3 วันอีกด้วย

ห้ามกวาดบ้านตอนกลางคืน

คนโบราณนิยมตื่นเช้ามาทำงานบ้านให้เสร็จ ไม่ว่าจะเป็นการหุงหาอาหาร เก็บกวาดบ้านเรือน ดูแลลูกเต้า จึงออกไปทำงานนอกบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำกินข้าว แล้วเข้านอนหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน



จึงเชื่อกันต่อ ๆ มาว่าห้ามกวาดบ้านในยามวิกาล ด้วยเชื่อว่าเป็นการกวาดเงิน กวาดทองออกจากบ้าน จะทำให้ขัดสนเงิน แต่หากต้องกวาดจริง ๆ ท่านก็ให้กวาดได้แต่ให้กวาดไปรวมกองไว้ที่หนึ่งภายในบ้าน ไม่ให้กวาดทิ้งไปนอกบ้านจนกว่าถึงเวลาเช้าเสียก่อน

แต่หากดูตามหลักความเป็นจริงก็เชื่อว่าการกวาดบ้านในตอนกลางคืน จะทำให้มองไม่เห็น อาจกวาดสิ่งของมีค่าทำให้ตกหล่านได้ จึงไม่นิยมกวาดในตอนกลางคืน

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน

บ้านใดที่มีต้นไม้มาก ๆ มีที่ร่มเป็นโพรง ตัวเงินตัวทองมักจะปรากฏให้เห็นตามที่ดังกล่าว



มักจะไม่คลานในที่โล่งแจ้งและก็หาแหล่งที่มาไม่พบอีกด้วยว่ามาจากใหน ซึ่งในหมู่บ้านกลางเมืองก็ยังปรากฏให้เห็นบ้าง

ลักษณะของตัวเงินตัวทอง บางคนว่าคล้ายจระเข้ มีหางยาวมาก มีขนาดตั้งแต่ตัวเล็กไปถึงตัวใหญ่โตมากเท่าลูกจระเข้เลยทีเดียว

ปกติตัวเงินตัวทองจะไม่ทำร้ายใคร แต่คนโบราณก็ถือว่าเป็นสัตว์อัปมงคลอยู่ดี จึงมีชื่อเรียกเสียเพราะเป็นการแก้เคล็ด หากบ้านใดมีเข้ามาให้เห็น
ท่านว่าให้พูดแต่สิ่งดี ๆ ไม่ให้ไล่มัน บางท่านก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนจุดบอกเล่าให้กลายเป็นการนำเอาสิ่งดี ๆ เข้ามาในบ้าน